มาส์กหน้าทุกวันดีไหม? การมาส์กหน้าที่ถูกต้องควรทำอย่างไร? ในปัจจุบันจะเห็นว่ามีคนออกมาแชร์เคล็ดลับผิวกระจ่างใส ดูโกลว์เป็นธรรมชาติด้วยการมาส์กหน้ากันมากมาย แต่ที่จริงแล้วการมาส์กหน้าช่วยอะไรบ้าง? ควรมาส์กหน้าอาทิตย์ละกี่ครั้ง? ในบทความนี้ทาง Bioderma จะพาไปหาคำตอบเกี่ยวกับการมาส์กหน้ากัน
มาสก์หน้า การบำรุงผิวขั้นกว่าของการทาครีม
การมาส์กหน้า คือ วิธีการบำรุงผิวรูปแบบหนึ่งที่นำสารที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวมาโปะบนใบหน้า เพื่อบำรุงผิว ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมาส์กหน้านั้นช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยลดปัญหาผิวหนัง อีกทั้งการมาส์กหน้าเป็นการบำรุงผิวได้ล้ำลึก จึงควรมาสก์หน้าควบคู่ไปกับการทาครีมด้วย
การมาสก์หน้ามีกี่แบบ
โดยทั่วไปแล้วการมาส์กหน้าแบ่งออกเป็น 10 แบบด้วยกัน ได้แก่
- มาส์กโคลนพอกหน้า มาส์กแบบโคลนมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดใบหน้าอย่างล้ำลึก โดยโคลนจะดูดเอาสิ่งสกปรก ความมัน ฝุ่นละอองที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนออกไป ซึ่งมาส์กโคลนพอกหน้านั้นเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง
- มาส์กแบบลอก มาส์กแบบลอกช่วยให้ผิวดูกระชับ ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง มีริ้วรอย
- มาส์กร้อน มาส์กแบบร้อนช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้อย่างล้ำลึก ช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้สิ่งอุดตันหลุดออกมาจากผิวหน้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่มาส์กร้อนจะต้องใช้มือนวดเบาๆ เป็นวงระหว่างการมาส์กหน้า เพื่อเป็นการเปิดรูขุมขน ดังนั้นมาส์กร้อนจึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน ผิวอุดตันง่าย
- มาส์กครีม เป็นมาส์กเนื้อครีมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับการกู้สภาพผิวชั่วข้ามคืน โดยเนื้อครีมจะช่วยให้ใบหน้ามีความชุ่มชื้นได้รวดเร็ว ทำให้ผิวดูนุ่มฟู เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง จนถึงผิวธรรมดา
- มาส์กน้ำมัน เป็นมาส์กที่พบได้บ่อยในการทำสปาบำรุงผิว โดยมาส์กน้ำมันจะอุดมไปด้วยน้ำมันสกัดจากวิตามินอี วิตามินดี วิตามินซี และวิตามินเอ ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น ผิวเนียนนุ่ม ดูกระชับ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวมีริ้วรอย
- มาส์กชีท เป็นมาส์กที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน มาส์กชีทเป็นแผ่นมาส์กสำเร็จรูปที่สามารถนำมาวางบนใบหน้าได้เลย โดยบนแผ่นมาส์กจะเคลือบด้วยสารสกัด เซรั่มบำรุงผิวหลากหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูกระชับ ริ้วรอยดูจางลง สามารถใช้ได้กับผิวทุกรูปแบบ
- มาส์กไฮโดรเจล มีลักษณะคล้ายมาส์กชีท แต่จะใช้วัสดุที่ทำมาจากเจล มีความเหนียว ลื่น กระชับใบหน้าได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวมีริ้วรอย
- มาส์กเจล มีลักษณะเป็นเนื้อเจล มีความเบาบางกว่าเนื้อครีม ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน ผิวแพ้ง่าย
- มาส์กบับเบิ้ล มีลักษณะเป็นฟอง ควรมาส์กอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยให้ใช้มือถู และนวดเบาๆ บริเวณใบหน้า ช่วยขจัดสิ่งสกปรก และช่วยลดปัญหาสิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน
- มาส์กธรรมชาติ เป็นการนำสมุนไพร หรือผักผลไม้ที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวมาพอกบนใบหน้า เช่น แตงกวา มะละกอ ข้าวโอ๊ต ฯลฯ โดยวิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวค่อนข้างน้อย มีสภาพผิวที่แข็งแรง
มาสก์หน้าช่วยเรื่องอะไร
การมาส์กหน้าทุกวันจำเป็นหรือไม่? แล้วการทาครีมทุกวันไม่เพียงพอสำหรับการบำรุงผิวจริงหรือ? การมาส์กหน้ามีส่วนช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิว กระชับรูขุมขน จากเดิมที่เคยมีรูขุมขนกว้าง รูขุมขนจะแลดูกระชับมากกว่าเดิม ผิวเรียบเนียน ดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบระหว่างการมาส์กหน้ากับการทาครีมหรือทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพียงอย่างเดียว จะเห็นว่าการมาส์กหน้าเพิ่มเติมด้วยนั้นจะช่วยบำรุงผิวได้ดีกว่า เนื่องจากการมาส์กหน้าสามารถลงลึกสู่ชั้นใต้ผิวหนังได้ดีกว่า จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วมากกว่าการทาครีมเพียงอย่างเดียว
มาสก์หน้าทุกวันดีไหม จะเกิดอะไรขึ้น
มาส์กหน้าทุกวันช่วยให้หน้าใสขึ้นจริงหรือไม่? ควรมาส์กหน้าอาทิตย์ละกี่ครั้ง? จริงๆ แล้วการมาส์กหน้าทุกวันถือเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้จะต้องดูส่วนผสมของมาส์กที่ใช้ก่อนตัดสินใจ เนื่องจากมาส์กบางชนิดมีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือเป็นมาส์กที่มีข้อความระบุว่าช่วยต่อต้านริ้วรอยต่างๆ จะมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว หากได้รับสารเหล่านี้ทุกวัน อาจเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ ดังนั้นการมาส์กหน้าทุกวันที่ดี ควรใช้มาส์กที่เป็นสูตรเพิ่มความชุ่มชื้น
มาสก์หน้าอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด และเห็นผลเร็ว
สำหรับวิธีมาส์กหน้าที่ถูกต้องและเห็นผลอย่างรวดเร็วนั้น สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือการรักษาความสะอาด ให้ทำการล้างมือ ล้างหน้าให้สะอาดก่อนมาส์กหน้าทุกครั้ง และเริ่มปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้
ทำความสะอาดหน้าก่อนมาสก์ทุกครั้ง
ความสะอาด คือ สิ่งสำคัญของการดูแลผิว ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านโดยไม่ได้แต่งหน้า หรือไปทำงานแล้วเพิ่งกลับมา ควรใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดใบหน้า หลังจากนั้นค่อยล้างหน้าเพื่อขจัดสิ่งสกปรกอีกทีด้วยคลีนเซอร์ โดยควรทำความสะอาดและล้างหน้าก่อนทำการมาส์กหน้าทุกครั้ง เนื่องจากเป็นการเปิดรูขุมขนเพื่อเตรียมความพร้อม ทั้งนี้คลีนซิ่งกับคลีนเซอร์ที่เลือกใช้ ควรพิจารณาจากปัญหาผิวของตนเองด้วย ยกตัวอย่างเช่น
- สำหรับผิวธรรมดา-ผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ใช้คลีนซิ่ง Sensibio Micellar Cleansing Oil ไมเซล่าคลีนซิ่งออยล์ที่ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น พร้อมชำระคราบสิ่งสกปรกอย่างหมดจด
- สำหรับผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ใช้คลีนเซอร์ Sensibio Gel Moussant เจลล้างหน้าไมเซล่าสูตรอ่อนโยน ช่วยปลอบประโลมผิว ให้ความชุ่มชื้น
- สำหรับผิวผสม-ผิวมัน แนะนำให้ใช้คลีนเซอร์ Sébium Gel moussant เจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ช่วยชำระล้างความมันส่วนเกินบนใบหน้า
อ่านวิธีใช้มาสก์อย่างละเอียด
มาส์กแต่ละแบบก็มีเนื้อที่แตกต่างกัน บางยี่ห้อเมื่อมาส์กหน้าเสร็จแล้ว ไม่ต้องล้างออก ส่วนบางยี่ห้ออาจต้องล้างออกด้วยน้ำสะอาดก่อนก็มี แนะนำให้อ่านวิธีการใช้งานให้ละเอียดก่อนทำการมาส์กหน้าทุกครั้ง เพื่อลดโอกาสการแพ้หรือการระคายเคือง
เลือกสูตรมาสก์ที่เหมาะกับปัญหาผิว
ในปัจจุบันมีการมาส์กหน้าอยู่หลายรูปแบบ ทั้งแบบโคลน แบบมาส์กชีท แบบเจล ฯลฯ อีกทั้งมีหลากหลายสูตรให้เลือกตามปัญหาผิว ดังนั้นการมาส์กหน้าที่ดี จึงควรเลือกสูตรมาส์กตามปัญหาสภาพผิวหนังของตนเอง เช่น หากมีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ให้เลือกมาส์กสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นนั่นเอง
ห้ามมาสก์หน้าเกิน 20 นาที
หากใครที่เคยเชื่อว่ามาส์กหน้านานๆ ยิ่งดี คุ้มค่า ประหยัดนั้น ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ โดยปกติแล้วไม่ควรมาส์กหน้าทุกวันเกินกว่า 20 นาที เนื่องจากแผ่นมาส์กจะเริ่มแห้งจนเกิดกระบวนการออสโมซิส ทำให้ความชุ่มชื้นบนใบหน้าถูกดึงออกมา แทนที่จะได้รับความชุ่มชื้น หน้าจะแห้งเสียมากกว่าเดิม จึงควรมาส์กหน้าแต่พอดีตามเวลาที่กำหนด
มาสก์หน้าทุกวันหน้า หน้าจะเหี่ยวหรือไม่
เป็นไปได้ หากมาส์กหน้าทุกวันเป็นระยะเวลาเกินกว่า 20 นาทีต่อครั้ง เนื่องจากแผ่นมาส์กจะเริ่มแห้ง และดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ อาจเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าปกติ
สรุป
การมาส์กหน้า คือ วิธีการดูแลผิวรูปแบบหนึ่งที่ใช้สารสกัดที่ช่วยบำรุงผิวมาวางไว้บนใบหน้า ทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 10-20 นาที โดยการมาส์กหน้าทุกวัน ช่วยให้เซลล์ผิวได้รับออกซิเจนมากขึ้น ช่วยกระตุ้นให้เกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิวรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้วิธีการมาส์กหน้าทุกวันแบบที่ถูกต้อง คือ การทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งสูตรที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของตนเองก่อน แล้วมาส์กหน้าด้วยมาส์กสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น จากนั้นค่อยตามด้วยครีมบำรุงผิว เนื่องจากการมาส์กหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวทุกอย่างได้ จึงควรใช้ครีมบำรุงเพิ่มเติมหลังจากมาส์กหน้า เพื่อให้ผิวดูกระจ่างใส ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น